Creative internet & e-business solutions
Google
 
www www.mew6.com
ศิลปะ-ศิลปินการออกแบบบรรจุภัณฑ ์เพลง ทำเว็บทางนี้มีรัก
 
ศิลปะในสายตาฉัน
จ่าง แซ่ตั้ง
สมบูรณ์ หอมเทียนทอง
พู่กันของใคร?
ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น
แกลลอรี่คนจน
ภาพของคนรักฝน
ฟรีด้า คาฮ์โล
นู้ดผู้หญิง...
Double Nature
กอด
เธอตัวจริงกับผู้หญิงในภาพ
ปั้นฝัน จึงปั้นดิน
ถ้าเรารักมัน มันก็เป็นของเรา
วิหารของเราเอง
"คนบ้า"หรือว่า"ช่างจิตรกร"
เหตุที่เขียนแม่ให้แปลกไป
ยุคสมัยที่เป็นเรา
รักเรายังหวานอยู่ ...
ล้านเส้นสี แสนกนก
กระป๋องซุป ของ แอนดี้
ถ้าไม่ดัง ขอให้ไพเราะ
ห้องเรียนศิลปะของ"ครูยิ่ง"
สิงคโปร์ในสายตา (1)...
สิงคโปร์ในสายตา (จบ)...
109 มองพิศ...
สีเปื้อนฟิล์ม
ศราวุธ ดวงจำปา...
ภาพเขียนของคนไม่มีบ้าน
นักศึกษา มศว...
ที่ว่างและช่องว่าง
ภาพเขียนวิจิตร...
เขียนภาพบูชาคุณ...
ตื่นของนอก
ตายก่อนดับ
ศิลปะ – มากกว่าแค่วาดรูป
ดูอาร์ตอย่างไรให้สนุก (1)
ดูอาร์ตอย่างไรให้สนุก (จบ)
หยุด-ยอม-เย็น
ขอนแก่น
คิดถึงมาก-คิดถึงเหลือเกิน
นุกูล ปัญญาดี สานฝัน...
เขียนสวนสมเด็จย่า...
“สามเหลี่ยมวัฒนธรรม”
อาร์ตอ้วนๆ
มากกว่าเขียนรูป...
แลใต้ผ่านงานศิลป์
หอศิลป์กระบี่...
เส้นสีเดินทาง...
สุเทพ จันทระ ...
สินบน
พรชัย ใจมา
เสียงดังเจ้าปัญหา
ควันบุหรี่บนภาพเขียน
แรกรู้จัก… “พู่กันสัญจร”
แปลงโฉมอาคาร
วัยหนุ่มของศิลปิน
อารมณ์ชีกอ
สีน้ำชุ่มฉ่ำ...
น้องชายที่แสนดี
  mail :: thinksea@hotmail.com

มากกว่าเขียนรูป หนูก็ทำได้

เรื่องโดย....ฮักก้า :: thinksea@hotmail.com

น่าอิจฉาเด็กๆกาญจนบุรีค่ะ ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องของศิลปะมากกว่าแค่การเขียนรูปให้เป็น

เรื่องของเรื่องคือเมื่อปลายมิถุนายนที่ผ่านมา หอศิลป์ร่วมสมัยกาญจนบุรี ของ อาจารย์ประเทือง เอมเจริญ ศิลปินรุ่นใหญ่ของบ้านเรา ได้ร่วมมือกับ สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม จัดให้มีค่ายศิลปะเด็กขึ้น

พร้อมกับเชิญเหล่าศิลปินมืออาชีพอันได้แก่ ผศ. พีระพงษ์ กุลพิศาล,สมชาย วัชระ สมบัติ, สว่าง เจริญปาละ,โกศล พิณกุล,บรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส,นุกูล ปัญญาดี, ไมตรี หอมทอง,สมศักดิ์ ศิริตานนท์ ฯลฯ ไปทำการเวิร์กช้อป ให้กับน้องๆด้วย หลังจากที่อาจารย์ประเทืองเคยชวนสมัครพรรคพวกศิลปินไปสร้างสรรค์งานศิลปะที่หอศิลป์มาแล้วหลายหน

ทีแรกฉันเองก็คาดเดาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า คงจะเป็นแค่กิจกรรมสนุกๆที่สอนให้น้องๆ เขียนรูป แล้วเอามาโชว์กัน หมดเวลาก็เป็นอันปิดงาน แต่ที่ไหนได้ ภายในระยะเวลาสองวันเต็มๆ น้องๆได้เรียนรู้ถึงการทำงานศิลปะหลากหลายรูปแบบมากเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นงานประติมากรรมกับธรรมชาติ , งาน Moral Painting หรืองานศิลปะชิ้นใหญ่ที่ต้องลงแรงทำร่วมกัน ฯลฯ กระทั่งวันสุดท้ายของงานน้องๆ เองก็ยังได้เป็นผู้จัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอผลงานของตัวเอง ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าตื่นตา ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะทำกันได้

“เราพยายามให้เด็กทำงานที่เรียกว่า Moral Painting หรืองานศิลปะชิ้นใหญ่ เพื่อให้เด็กเค้าเกิดความสามัคคีในการทำงานศิลปะ ขณะเดียวกันให้เค้าได้รู้จักแชร์ความคิด แชร์ศักยภาพในการทำงาน” ศิลปิน สมชาย วัชระสมบัติ หนึ่งในทีมศิลปินที่ทำการเวิร์กช้อป บอกเล่าให้ฟังในเช้าวันที่สองของค่าย

แน่นอนหล่ะว่าความเป็นค่ายย่อมทำให้เด็กได้ทั้งความสนุก ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆกลับไป แต่สิ่งที่กลุ่มศิลปินใจดีหวังให้มันต่อยอดในวันข้างหน้าก็คือ

“เมื่อเค้าโตขึ้นไป เค้าจะเห็นงานศิลปะไม่ใช่สิ่งที่นอกเหนือไปจากชีวิตเค้า เป็นสิ่งที่สอดคล้อง ดำเนินอยู่กับชีวิต จะทำให้คนเหล่านี้เป็นอนาคตของวงการศิลปะต่อไป”
เมื่อหลายปีมาแล้ว บ้านเราได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องศิลปะเอาไว้เรื่องหนึ่ง ในวิจัยนั้นสรุปผลออกมาว่า มี 10 เปอร์เซ็นต์ที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองเห็นว่า ศิลปะนั้นมีความจำเป็นกับชีวิตของลูก เห็นว่าเป็นสิ่งมีประโยชน์อยากให้ลูกได้เรียนรู้ แต่มี 5 เปอร์เซ็นต์ที่อยากให้ลูกเรียนศิลปะ แต่ไม่จำเป็นว่าพวกเขาต้องไปประกอบอาชีพด้านศิลปะ ขณะที่มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ต้องการให้ลูกยึดศิลปะเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและหาเลี้ยงชีพ

จากการเฝ้าสังเกต สมชาย วัชระสมบัติ มองว่า ผลวิจัยในครั้งนั้นยังเทียบเคียงกับสภาวะปัจจุบันได้ดีอยู่

“มันจึงมีผลทำให้การพัฒนาศิลปะในบ้านเราดำเนินไปได้ช้า เพราะทัศนคติวิธีคิดของครอบครัว ของพ่อแม่ มองเห็นว่าศิลปะจะทำให้เค้าดำรงชีวิตอยู่ไม่ได้”

ท่ามกลางการ์ดเชิญมากมายที่ถูกส่งถึงฉัน เพื่อชวนให้ไปร่วมชมนิทรรศการศิลปะ ที่มีแสดงในหลายจุด หลายแกลเลอรี่ทั่วกรุงเทพฯ คงจะพอคำนวณได้คร่าวๆว่า บ้านเราไม่ได้มีคนทำงานศิลปะลดน้อยถอยลงเลย แถมจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำ

ได้เลือกเดินตามเส้นทางศิลปะ แล้วศิลปะจะสามารถช่วยให้พวกเขาเป็นคนที่มีรายได้ที่ดี

เพียงแต่ฉันมีความเชื่อเฉกเช่นในอาชีพอื่นๆว่า ถ้ามุ่งมั่น ก็ย่อมพบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ แต่ความสำเร็จที่ว่านั้นอาจจะมีใช่ตัวเลขในบัญชี แต่เป็นความสุขบางด้านในชีวิตที่พวกเขาสามารถค้นพบผ่านเส้นสีและทีแปรง และในงานศิลปะอีกหลากแขนงที่พวกเขาได้ลงไปร่วมคลุกคลี

ในความเห็นฉัน ค่ายศิลปะเพียงไม่กี่วัน กับกิจกรรมที่เตรียมไว้รองรับ ถ้าทำให้น้องๆสนุกได้ ทำให้เด็กกล้าแสดงความคิด และเป็นตัวเองให้มากที่สุด จากที่เคยถูกปิดกั้นไว้ด้วยความหวังดีผิดทิศผิดทาง ก็น่าจะเรียกว่าค่ายนั้นๆประสบความเร็จได้ไปกว่าครึ่งแล้ว

เห็นน้องๆแบ่งหน้าที่ และช่วยกันทาสีท่อนไม้กันคนละสี เพื่อใช้ทำงานประติมากรรมกลางแจ้ง บ้างใช้ค้อนทุบตะปู สร้างภาพดอกทานตะวัน และภาพสะพานข้ามแม่น้ำแคว แบบงานเทคนิคสื่อผสม แค่นั้น ผู้ใหญ่หลายคนที่อุตส่าห์สละเวลาจากการงานหาเลี้ยงชีพไปช่วยกันในกิจกรรมค่ายศิลปะ ก็น่าจะชื่นใจได้มากขึ้นเป็นไหนๆ
อย่างตอนที่ 3 ศิลปิน โกศล พิณกุล,บรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส และ นุกูล ปัญญาดี แทกทีมกันขึ้นไปสอนเขียนภาพสีน้ำแบบ 3 in 1 นอกเหนือจากสายตาที่จดๆจ้อง ๆเฝ้ามองอยู่ไม่ห่าง ฉันว่าคงมีเด็กๆบางคนเกิดความรู้สึกหลุดจากกรอบเดิมๆขึ้นมาบ้างหล่ะว่า “เอ..ไอ้การเขียนภาพนี่ เราไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของภาพคนเดียวก็ได้นี่นา ช่วยกันเขียนก็สนุกดีเหมือนกัน”

และเมื่อออกจากค่ายกลับถึงบ้าน ใครจะไปล่วงรู้ว่า พวกเขาอาจจะอ้อนขอเงินในกระเป๋าของแม่ไปซื้อสี ซื้อพู่กัน มาตวัดโชว์เขียนภาพ หรือไม่ก็อาจจะเสกประติมากรรมอันแปลกตา ผุดขึ้นที่หน้าบ้าน ในไร่ ในสวน ให้พวกผู้ใหญ่ตกใจเล่นแล้วก็เป็นได้

All content ฉ 2003 copyright 2003 Gomew.com, All rights reserved.
Commercial use is prohibited.Please read our terms of use.
Powered and Design by www.gomew.com
Contact Us at :: 4/1 Soi 12, Chotana Rd, T.Changpuek, A.Mueng, Chiang Mai 50300, Tel. 053-408771 Fax. 053-408771 Email. mew6@mew6.com