รักเรายังหวานอยู่ ... ศิลปินผู้เห็นมดยิ้ม ช่วง มูลพินิจ
เรื่องโดย....ฮักก้า
::
thinksea@hotmail.com
ช่วง มูลพินิจ และภรรยา
Art Eye View ขออยู่นอกกรอบภาพเขียน กระโดดเข้าเรื่องหัวใจของศิลปินใหญ่สักอาทิตย์
.....................
เห็นควงคู่กันกระหนุงกระหนิง ไปชมงานศิลป์ของเพื่อนพ้องอยู่บ่อยๆ
เป็นอันทำให้ คนรอบข้าง ที่แม้ว่าจะไม่สนิทชิดเชื้อกัน ก็ยังต้องมีอันอิจฉาตาร้อนผ่าว
ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คู่รักศิลปินอย่าง ช่วง มูลพินิจ หรือ อาจารย์ช่วงเจ้าของฉายา ศิลปินผู้เห็นมดยิ้ม ดังคำ ..รงษ์ วงษ์สวรรค์ว่าไว้ กับ จินดารัตน์ ภรรยาผู้อยู่ใกล้ตัวใกล้ใจศิลปินใหญ่วัย 64 ปี มาเป็นระยะเวลานานหน่ะสิ
นับตั้งแต่ที่ทั้งคู่พบรักกันครั้งแรกในสมัยที่อาจารย์ช่วงยังทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ออกแบบเครื่องเขิน ของกระทรวงอุตสาหกรรม จนเดี๋ยวนี้ลูกสาวคนเดียว ปานวาด บินลัดฟ้าไปทำงานไกลถึงอเมริกาโน่น
เรื่องคิดถึงบ้าน ก็คงคิดถึง แต่เรื่องเป็นห่วงคุณพ่อเทคแคร์คุณแม่ไม่พอน่าจะลองลงมานะว่าไหม
ยิ่งได้ฟังข่าวนี้ ...คุณลูกสาวปานวาด สบายใจได้อีกเท่าตัว ก็เพราะคุณพ่อของเธอช่างดูแลคุณแม่ได้ดีเหลือเกิน จะขยับเท้าก้าวขาไปไหนที เป็นอันต้องเหลียวหลังส่งสายตาบอกให้รู้
อย่างนี้ ไม่ได้มองเห็นมดยิ้มเพียงอย่างเดียวแล้วกระมังคะอาจารย์ช่วง แต่ยังมองเห็นมดย่อยน้ำตาลอีกด้วย แหม...ก็หวานนนน...ซะอย่างนั้น
พบทั้งคู่ในงานเปิดนิทรรศการศิลปิน ถวัลย์ ดัชนี จึงอดไม่ได้ที่จะขอถาม ช่วยวานบอก...มีวิธีดูแลความรักอย่างไร?
ศิลปินใหญ่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อย ชี้มือขึ้นฟ้า แล้วตอบว่า ต้องถามข้างบน เราไม่สามารถจะตอบได้ ต้องถามข้างบน อันนี้มันเป็นคำสั่งจากเบื้องบน
เบื้องบนในที่นี้คงไม่ใช่เจ้านายหรอกนะ เราๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป เพราะศิลปิน ช่วง มูลพินิจ ท่านนี้เป็นศิลปินอิสระมานานนมแล้ว แต่ในที่นี้คงหมายถึง สวรรค์ลิขิตมา มากกว่า
ต่อจากนั้นคนสอดรู้ไม่รีรอขอถามต่อว่า ภรรยาคนดีคนเดียวนี้ถูกใจอาจารย์ช่วงตรงไหน
เคยทำงานด้วยกันที่กระทรวงอุตสาหกรรม แต่คนละกรม และก็ชอบกันเหมือนมนุษย์ทั่วไป ชอบกัน มันบอกไม่ถูกนะ เราชอบใครเราบอกไม่ถูกว่าตรงไหน จะบอกว่าชอบเหมือนกันมันก็คงยุ่งนะ ต่างคนต่างชอบ มันจะพูดมาเป็นคำพูดไม่ได้ เรื่องความรักเรื่องการชอบเนี่ย มันเป็นความรู้สึก ทุกคนมี บอกไปคนก็ไม่เข้าใจ ต้องเกิดขึ้นเอง
นับเวลาย้อนกลับตอนนี้ก็เกือบ 40 ปีเข้าแล้ว ที่คู่รักคู่นี้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาอย่างราบรื่น มีหลายความเห็นจากคนนอกผู้ชอบสังเกตการณ์ว่า ต้องราบรื่นอยู่แล้ว เพราะอาจารย์ช่วงเป็นศิลปินที่สุภาพ และให้เกียรติคนอื่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งภรรยาด้วย
พอเอี้ยวหน้าไปถามฝั่งคุณจินดารัตน์บ้าง เธอได้ตอบถึงความรู้สึกของ ณ เวลานี้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอาจารย์ช่วง ในบ้านหลังที่แวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ณ หมู่บ้านธารารมณ์ ย่านถนนรามคำแหงว่า สิ่งสำคัญคือต้องอดทนเป็นที่ตั้ง พร้อมกับเปรยไปถึงความรู้สึกครั้งแรกพบ
ต้องใช้ความอดทนสูง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นธรรมชาติของศิลปินหรือเปล่าไม่ทราบนะคะ คืออารมณ์ความรู้สึก อะไรต่ออะไร...
เจอกันครั้งแรกก็รู้สึกสะดุดตาเพราะว่า เหมือนกับเค้ามีอะไรที่มันไม่เหมือนคนทั่วๆไป พอรู้จากเพื่อน และจริงๆเรารู้จักงานเค้ามาก่อน แล้วก็ชอบงานเค้ามาก่อน แล้วพอมาเจอว่าคนๆนี้ เป็นคนที่เขียนงานที่เราชอบ ก็เลยรู้สึกอะไรมากขึ้นกว่าปกติ
เมื่ออาจารย์ช่วงขอเป็นฝ่ายชี้มือขึ้นฟ้าถามสวรรค์ กับคำถามเรื่องวิธีดูแลความรัก จึงโยนคำถามเดียวกันให้คุณจินดารัตน์ช่วยตอบอีกรอบ เธอจึงช่วยไขทันใด
ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบศิลปะด้วยไงคะ อยากจะไปดูงานที่โน่นที่นี่ น่าจะคิดว่าตรงนี้มีส่วน ทำให้ผูกพันอยู่ด้วยกันมาถึงวันนี้
เรื่องของเรื่องเธอเป็นคอศิลปะคนหนึ่ง ปลื้มงานศิลป์ฝีมือศิลปินผู้เห็นมดยิ้มอยู่เป็นทุนนั่นเอง เมื่อสวรรค์บันดาล ความรักจึงบังเกิด แต่พอมาอยู่ด้วยเธอกับบออกว่า ไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นอาจารย์ช่วงตอนขณะที่ลงมือทำงานศิลปะเท่าไหร่ นอกจากคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้
จะเห็นตอนที่เขาเขียนเสร็จแล้วสักครึ่งมากกว่า เพราะเขาจะไม่ค่อยชอบให้ใครเข้าไปยุ่งในระหว่างที่เขาเขียนภาพอยู่
แต่คงไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจินดารัตน์เธอจะต้องงอนหรอกนะเรื่องแค่นี้ เพราะระยะเวลาเกือบ 40 ปี ที่อยู่ร่วมกันมาอย่างเข้าใจ ตอบแทนได้ว่า...ความรักยังอยู่
|