สีเปื้อนฟิล์ม
เรื่องโดย....ฮักก้า
::
thinksea@hotmail.com
|
หายไปสองอาทิตย์ค่ะ นอกจากกันพื้นที่ให้กับสกู๊ปช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เหตุผลหนึ่งก็เพราะ หาเวลาไปดูหนังมา ตั้ง 15 เรื่องแหน่ะ ขอโม้
แต่เป็น 15 เรื่องที่ ฉายไว้ในหนังสือ 1 เล่ม ... เล่มที่ฉันอยากจะยกให้เป็นหนังสือในดวงใจและหนังสือดี ต้อนรับปีใหม่ ให้กับชีวิตการอ่านของตัวเองเลยทีเดียว
หลายคนอาจสงสัยว่า Art Eye View อาทิตย์นี้ ไหงเปลี่ยนมุมมาแนะนำหนัง แนะนำหนังสือเสียนี่ เรื่องอาร์ตๆ จำพวกงานทัศนศิลป์ ไม่มีมาเล่าสู่กันฟังแล้วหรือ
ยังคงอยู่ในแวดวงทัศนศิลป์ค่ะ แต่คราวนี้ที่พูดถึงหนัง พูดถึงหนังสือ ก็เพราะว่า ทั้งหนังและหนังสือ ..มันเปื้อนสี!!
.
รู้จักศิลปิน เรียนรู้ศิลปะ จากหนังดัง 15 เรื่อง .... โปรยบนปกหนังสือที่ชื่อ สีเปื้อนฟิล์ม ซึ่งเขียนโดย พิษณุ ศุภ. ทำเอาฉันยอมควักสตางค์ซื้อมาครอบครองไว้โดยไม่รีรอและลังเล ทันทีที่เห็นมันเสนอเล่มหราอยู่บนชั้นในร้านหนังสือ
หลายคนคงรู้ดีว่า พิษณุ ศุภ. เป็น คนเดียวกันกับ พิษณุ ศุภนิมิตร จิตรกรคนหนึ่งของบ้านเรา ที่เคยฝากผลงานการเขียนไว้หนังสือ กลิ่นสีและกาวแป้ง เมื่อ ปี พ.ศ. 2528 ,บนถนนคนนอนเปล พ.ศ. 2530,กลิ่นสีและทีแปรง พ.ศ.2535 ซึ่ง มันก็ถูกนำไปสร้างเป็นหนัง ในเวลาต่อมา
จากนั้นเขาก็ยังมีผลงานหนังสืออีกหลายๆเล่ม ที่คลอดออกมาให้เราๆได้อ่านกันจนถึงปัจจุบัน จนฉันเกือบจะหลงคิดไปว่า เขาจะเอาดีทางด้านงานเขียนแล้วเขวี้ยงพู่กันทิ้งเสียนี่
ในฐานะคนที่เคยชมงานศิลปะของเขามาบ้างและทันทีที่อ่านหลายๆเรื่อง ในหนังสือ สีเปื้อนฟิล์ม จบ ฉันรู้สึกได้ทันทีว่า เขาก็น่าเอาดีทางด้านงานเขียนอยู่หรอก ก็เขาเขียนหนังสือด้วยภาษาที่อ่านได้เข้าใจง่าย และผ่อนคลายอารมณ์ดีนักแล(เทใจชมแบบไม่มีกั๊ก)
ผ่อนคลายและเป็นกันเอง เหมือนภาพเขียนสีน้ำของเขา ชุด เส้นสีเดินทาง JOURNEY OF COLORATION ที่จัดแสดงให้ชม ณ โรงแรม โรสการ์เด้น เอไพรม รีสอร์ท สวนสามพราน เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน
แม้เจ้าตัวจะออกตัวไว้ว่า ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการทำหนังเลยสักนิดเดียว นอกจากเป็นแต่เพียงคนศิลปะผู้ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ พอๆกับอ่านหนังสือ ดูไปแบบคนธรรมดาเขาดูหนังก็ตามที
นี่แหล่ะฉันว่ามันคือเสน่ห์ของการเป็นคนดูหนังแบบธรรมดาของเขา เมื่อรักดูหนัง ดื่มด่ำจนถอนตัวไม่ขึ้น จนหนังการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต บวกกับการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากใจเขา จึงพรั่งพรูออกมาให้เราได้ละเลียดแบบไม่เอียนและเฝื่อนลิ้น
อ่านแล้วรู้เลยว่าทำการบ้านเพิ่มเติมไม่น้อย หรือไม่ก็คงหยิบเอาจากเสบียงกรังที่สะสมไว้ในฐานะคนทำงานศิลปะที่เคยรู้เรื่องราวของศิลปินมาไม่น้อย แทรกข้อมูลเข้ามาให้เราได้อ่านกันแบบรู้ลึกแต่ไม่เคร่งเครียดเป็นวิชาการจ๋า
ทำให้ฉันอยากจะค่อยๆไล่สายตาไต่ตามไปทีละบรรทัด ขยับตามไปทีละคำ ดูหนังทีเปื้อนสีที่กางจอฉายผ่านตัวอักษรของเขา
สีที่เปื้อนฟิล์ม มีทั้งหนังที่เป็นชีวประวัติอันยิ่งใหญ่ของศิลปิน เรื่องที่เป็นตำนาน เรื่องที่ใช้ศิลปะเป็นสื่อความรัก เรื่องที่เห็นว่าภาพเขียนเป็นของล้ำค่าขนาดต้องโจรกรรมกัน เรื่องตื่นเต้นฆาตกรรมของจิตรกร นักสืบลึกลับพยัคฆ์ร้าย หรือตลกโปกฮา หากภาพเขียนสักภาพหรือศิลปกรรมสักชิ้นโผล่มาบนจอหนังที่ผมพอจะโม้ได้ พอที่จะขยายความได้บ้าง ผมจะเอามาเขียนทันที ทั้งนี้เพื่อให้คนดูหนังด้วยกันได้เข้าใจในศิลปะอีกแขนงหนึ่งซึ่งซุกซ่อนอยู่ในศิลปะภาพยนตร์
คุณๆขา ฉันหล่ะอยากให้ พิษณุ ศุภ. โม้ออกมาอีกเยอะๆ ถ้ามันจะเป็นการโม้ที่กระตุ้นต่อมให้ฉันดูหนังมีรสมีชาติยิ่งขึ้น
ตาคู่เดียวนี้ของฉันไปอยู่ที่ไหนเสีย ในคราวที่ดูหนังเรื่อง Notting Hill ถึงไม่มองไม่เห็นภาพเขียนของ Marc Chagall จิตรกรชาวยิว รัสเซีย บานฉ่ำอยู่ในนั้นเหมือนที่ พิษณุ ศุภ. ดู สงสัยฉันคงมัวจ้องแต่พ่อพระเอกหนุ่ม Hugh Grant เป็นแน่เชียว
หรือหนังเรื่อง Frida อีกหล่ะ เหตุใดฉันจึงมัวแต่ทุกข์ตรมไปกับชีวิตอันแสนเศร้าของเธอแม่นางคิ้วจรด Frida Kahlo จนลืมมองภาพบางภาพของสามีเธอ Diego Rivera จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามของเม็กซิโก
คราวนี้หล่ะฉันจะตรงไปร้านเช่าหนังอีกครั้ง และเช่าหนังทั้ง 15 เรื่อง มาดู
จะไล่ดูทุกๆเรื่องที่พิษณุ ศุภ.เขียนถึง ไม่ว่าจะเป็น What Dreams May Come , Surviving Picasso, The Thomas Crown Affair, The Agony and the Ecstasy,Great Expectations, Titanic,กุมพาพันธ์,ความรักครั้งสุดท้าย,กลิ่นสีและกาวแป้ง ฯลฯ แม้ว่าบางเรื่องฉันจะดูมาหลายรอบแล้วก็ตาม
อยากรู้จังว่าสิ่งที่เขามองเห็น ฉันยังจะทำเป็นตาถั่วอีกไหม
|