จากภาพจิตรกรรมฝาผนัง
จิตรกรรมฝาผนังที่เขียนแสดงให้เห็นการแสดงหุ่นหลวง
ได้แก่
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนไว้อันเป็นฝีมือช่างเขียนในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ประมาณสมัยรัชกาลที่
๓-๔ เท่าที่พบมีที่วัดโพธิ์ วัดทองธรรมชาติ
วัดโสมนัสวรวิหาร วัดมัชฌิมาวาส
(จ.สงขลา) วัดพระแก้ว ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้
เขียนแสดงการละเล่นหุ่นหลวงในงานสมโภช
และงานศพ เรื่องราวในภาพนั้นแสดงให้เห็นทั้งโรง
และฉากของหุ่นหลวงอันพอจะสรุปได้ดังนี้ ฉาก เขียนเป็นเขาพระสุเมรุ มีวิมานอยู่บนยอดเขาหลังหนึ่งตรงกลาง
และมีวิมานอยู่บนยอดเขาซ้ายขวาลดหลั่นลงมาอีกข้างละหลัง
รวมทั้งหมดสามหลัง ตรงกลางฉากส่วนล่างที่ตรงกับวิมานหลังกลาง
มีคล้ายๆกุฎีโผล่ออกมาจากช่องเขาตรงกลางหนึ่งหลัง
กุฎีนี้ไม่ทราบว่าเขียนบนฉากหรือสร้างยื่นออกมาจากฉากจริงๆ
ทั้งหมดนี้เขียนบนพื้นสีเข้มจัด
มีเมฆอยู่ประปรายระหว่างวิมานอันเป็นส่วนบนของฉาก
ภาพจิตรกรรมที่วัดมัชฌิมาวาสจะเขียนเป็นพระอาทิตย์
และพระจันทร์อยู่ข้างๆวิมานด้วย
ประตูสำหรับหุ่นเข้าออกมีสองประตู
อยู่ค่อนไปทางริมโรงทั้งสองด้าน
มีม่านแหวกสีแดง
บางโรงเขียนเป็นกำแพงมีใบเสมาต่อเป็นแนวเดียวกับประตูที่ว่านี้
สำหรับเวทีของหุ่นเป็นแผงที่มีขนาดสูงท่วมศีรษะคนเชิด
เพื่อบังไม่ให้คนดูเห็นคนเชิด
ให้เห็นแต่ตัวหุ่นที่คนเชิดยกชูโผล่พ้นขอบเวทีปรากฏอยู่หน้าฉาก
ที่สุดกำแพงเมืองทั้งสองด้านทำเป็นกำแพงเมืองยื่นออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยม
มีใบเสมาสี่เหลี่ยมเหมือนใบเสมาตามป้อมกำแพงพระบรมมหาราชวัง
บนป้อมกำแพงนี้ ด้านขวามือของคนดูทำเป็นปราสาทมียอดตั้งอยู่
ส่วนทางด้านซ้ายมือของคนดูจะทำเป็นพลับพลาไม่มียอดตั้งอยู่
สันนิษฐานว่าหุ่นหลวงแต่ก่อนคงนิยมเล่นเรื่องรามเกียรติ์กันมาก
จึงทำฉากอย่างโขนหน้าจอหรือโขนนั่งราว
คือ ทางขวามือของคนดูเป็น
"ฝ่ายลงกา" ของทศกัณฐ์ และทางซ้ายมือของคนดูเป็น
"ฝ่ายพลับพลา" ของพระราม