ปี่พาทย์เครื่องห้า
ประกอบด้วยเครื่องบรรเลงดังนี้ เพลงที่มีลักษณะเป็นเพลงละครอย่างแท้จริง ๒.
เพลงโอ้ปี่ โอ้ร่าย
ใช้แสดงอาการคร่ำครวญเศร้าโศกของตัวละครตัวเอก
เช่น พระไวยคร่ำครวญเมื่อพบเปรตนางวันทองในเพลงโอ้ปี่ที่ว่า ๓.
เพลงโอ้โลม เพลงโอ้ชาตรี เพลงโอ้
เพลงฉิ่งสิงโตตัด เพลงโลมนอก
เพลงโอ้โลม เพลงฉิ่ง
เพลงเหล่านี้ใช้แสดงอาการเล้าโลมเกี้ยวพาราสีของตัวละครตัวเอก
เช่น
เมื่อเจ้าเงาะเกี้ยวนางรจนาในเพลงโอ้ชาตรีที่ว่า ๔.
เพลงชมตลาด
ใช้บรรยายความงดงามของตัวละคร
เช่น
ร้องชมร่างแปลงของนางวันทองเมื่อจะไปห้ามทัพพระไวย
ดังนี้ ๕.
เพลงฉุยฉาย ใช้แสดงท่าทีเดินเยื้องย่างกรีดกรายด้วยความโอ่อวดของตัวละครเมื่อแปลงหรือแต่งกายได้สะสวยงดงาม
เช่น
เมื่อนางเบญจกายแปลงเป็นนางสีดาจะไปเข้าเฝ้าทศกัณฐ์ดังบทร้องที่ว่า ที่มา
: "หุ่นไทย" โดย อาจารย์
จักรพันธุ์ โปษยกฤต
Copyright © 2000 ANURAKTHAI.COM All Right reserved
ปี่ (ใน)
ระนาด (เอก)
ฆ้องวง (ใหญ่)
ตะโพน -
กลองแขก
กลองทัด
๑. ซออู้ เป็นซอสองสาย
กะโหลกซอทำด้วยกะลามะพร้าวขนาดใหญ่ที่ต้องพิถีพิถันเลือกกะลาตาเดียว
ถ้าจะให้รูปกะโหลกสวยงามต้องดัดแต่งมาตั้งแต่มะพร้าวยังไม่แก่ด้านหลังกะโหลกซอมักเป็นลายฉลุโปร่ง
เพื่อให้เสียงซอดังกังวานไม่อับ
คันชักทำด้วยไม้เนื้อแข็งเหนียว
เช่น ไม้ขิงชัน ไม้แดง สายคันชักทำด้วยหางม้าเหมือนเช่นซอทั่วไป
ซออู้นี้มีเสียงทุ้มค่อนข้างเศร้าเหมาะแก่การสีเคล้าไปกับการร้องเพลงหุ่นเป็นอย่างยิ่ง
๒. กลองต๊อก เป็นกลองจีนขนาดเล็กมีสองหน้า
หน้าใหญ่กว้างประมาณ ๘ นิ้ว
หน้าเล็กกว้างประมาณ ๓ นิ้ว
ใช้ไม้ตี ๒ อันมีขนาดเล็กยาวประมาณ
๑๐ นิ้ว ใช้ตีประกอบจังหวะไปพร้อมกับซออู้และการขับร้อง
๓. แต๋ว ทำด้วยทองบุหรือทองม้าก่อ
มีลักษณะกลมแบนยกขอบเล็กน้อยเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
๔ นิ้ว ใช้ถือตีด้วยไม้เล็กยาวประมาณ
๖-๗ นิ้ว ใช้ตีล้อตีขัดไปกับกลองต๊อก
- เพลงเข้าม่าน
ประกอบการเดินเข้าฉากในระยะใกล้ๆ
ของหุ่นตัวเอก
-
เพลงเสมอ
ประกอบการไปมาในระยะใกล้ๆ
-
เพลงเชิด
ประกอบการไป มาในระยะไกล
ๆ และใช้ในการต่อสู้
-
เพลงตระนิมิตร
ประกอบการแปลงกายของตัวหุ่นที่เป็นตัวเอก
ๆ
- เพลงชุบ
ประกอบการเดินของนางกำนัล
เช่น เมื่อนางยี่สูนใช้นางกำนัลให้ไปตามพราหมณ์
ปี่พาทย์ก็จะทำเพลงชุบ
- เพลงโลม
ประกอบการโลมเล้าเกี้ยวพาระหว่างตัวหุ่นที่เป็นตัวเอก
มักต่อด้วยเพลงตระนอน
- เพลงตระนอน
ใช้สำหรับหุ่นตัวเอกเมื่อจะเข้านอน
โดยมาบรรเลงต่อจากเพลงโลม
เพลงโอด ประกอบการเศร้าโศกเสียใจ
-
เพลงโล้
ประกอบการเดินทางทางน้ำ เช่น
พระอภัยมณีโดยสารเรือสำเภาหรือเกาะหลังเงือกว่ายน้ำหนีผีเสื้อ
- เชิดฉิ่ง
ประกอบการเดินทาง การเหาะ
เช่น เบญจกายเหาะมายังเขาเหมติรันเพื่อแปลงเป็นสีดาลอยน้ำไปลวงพระราม
หรือการติดตาม เช่น พระลอตามไก่
รามสูรตามนางเมขลา
- เชิดกลอง
บรรเลงต่อจากเพลงเชิดฉิ่ง
-
เพลงรัวต่างๆ
ประกอบการแผลงอิทธิฤทธิ์
หรือแปลงตัวอย่างรวบรัด
-
เพลงกราวนอก
ประกอบการยกทัพตรวจพลของกระบวนทัพฝ่ายมนุษย์
-
เพลงกราวใน
ประกอบการยกทัพตรวจพลของกระบวนทัพฝ่ายยักษ์
-
เพลงแผละ
ประกอบการเดินทางทางอากาศ
เช่น การบินมาของพญาครุฑ
๑. เพลงช้าปี่ ใช้บรรยายบทบาทหรืออากัปกิริยาของตัวละครตัวเอก
เมื่อออกนั่งเมือง หรือสถานที่ใดที่หนึ่งในโอกาสที่ต้องการความสง่าผ่าเผย
"เมื่อนั้น
พระลักษณวงศ์ผู้ทรงศรี
ตั้งแต่ได้โฉมงามเจ้าพราหมณ์ชี
ภูมีตรึกตรองเรื่องน้องยา ฯ"
"ทั้งรักทั้งสงสารรำคาญอก
น้ำตาตกพร่างพรายทั้งซ้ายขวา
โอ้แม่วันทองของลูกยา
เคยทำเวรมาไว้มากมาย ฯ"
"น้องเอยน้องรัก
ผิวพักตร์เพียงจันทร์อันทรงกลด
โฉมนางแน่งน้อยช้อยชด
อย่ากำสรดเศร้าหมองไม่ต้องการ
ฯ"
"นวลละอองผ่องศรีฉวีขาว
เมื่อแรกรุ่นรูปราวกับนางห้าม
มวยกระหมวดกวดเกล้าเหมือนเจ้าพราหมณ์
ใส่สังวาลประจำยามอร่ามพราย ฯ"
"ฉุยฉายเอย
จะไปไหนนิดเจ้าก็กรีดกราย
เยื้องย่างเจ้าช่างแปลงกาย
ให้ละเมียดละม้ายสีดานงลักษณ์
ถึงพระรามเห็นทรามวัย
จะฉงนพระทัยให้อะเหลื่ออะหลัก
ฯ"